มีใครบางคนกล่าวไว้ว่า"ชีวิตคือการเดินทาง"ในชีวิตของคนเรานั้น ไม่อาจยุติการเดินทางไปข้างหน้าได้ จะเดินเร็วหรือช้าเท่านั้น และไม่มีใครรู้ว่าจะจบลงเมื่อไร แต่นั่นไม่สำคัญ สิ่งสำคัญอยู่ที่ว่าจะจบลงอย่างไร จบแบบมีคุณค่าต่อตนเองและคนรอบข้างที่เกี่ยวข้องด้วยหรือเปล่า หรือจะจบอย่างไร้ค่า ไม่มีความหมาย ไม่มีคุณค่ากับความทรงจำของใครต่อใคร
ตรงที่ผมนั่งอยู่นี้ เมื่อสามสิบปีก่อนเคยเป็นกุฏิหลังเล็กๆ เป็นหอฉันท์ของหลวงพ่อด้วย ตอนกลางวันหลวงเจริญท่านจะมานั่งคุยกับญาติโยมที่นี่ ตอนเย็นท่านเข้าไปจำวัดในพระที่นั่งฯ ตรงนี้จึงกลายเป็นที่พัก ที่นอนของเด็กวัด บัดนี้กุฏิหลังนั้นถูกรื้อออกไปแล้ว กลายเป็นที่ว่างๆ ส่วนต้นจันท์ด้านหลังเป็นต้นเดิม
Posted by ลุง วรรณ at 09:09
Labels: ตลาดน้ำอัมพวา